สวัสดีครับบทความนี้ผมขออนุญาติมารีวิวให้กับน้องๆ ที่กำลังสนใจเกี่ยวกับการเดินทางไป ฝึกงานฟาร์มเกษตร ในฟาร์มโคนม ฟาร์มสุกร ที่ประเทศเดนมาร์ก เพื่อไว้เป็นแนวทางสำหรับน้องๆ ที่สนใจ และกำลังเรียนอยู่ในรั้ววิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั่วประเทศกันนะครับ
โครงการ Travel to Farm
นักศึกษาไทยที่ไปฝึกงานที่เดนมาร์กตามโครงการ “Travel to Farm” ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงาน Travel to Farm ของเดนมาร์ก โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การทำงานในฟาร์มปศุสัตว์ของนักศึกษา แต่ละปีจะมีนักศึกษาจากไทยเข้าร่วมโครงการประมาณ 10-15 คน และฝึกงานเป็นระยะเวลาประมาณ 12-18 เดือน โดยแต่ละคนจะถูกส่งตัวไปฝึกงานที่ฟาร์มปศุสัตว์ตามเมืองต่างๆ ของเดนมาร์ก การไปอยู่ในช่วงฝึกงานจะไปอยู่ร่วมกับครอบครัวเจ้าของฟาร์มเปรียบเสมือนคุณเป็น 1 คนในสมาชิกครอบครัว ทำให้นักศึกษาไทยได้ประสบการณ์และเรียนรู้เทคนิคการทำฟาร์มปศุสัตว์ที่ได้มาตรฐานของเดนมาร์ก ซึ่งสามารถนำกลับไปพัฒนาการทำฟาร์มในประเทศไทยต่อไป
ไปฝึกงานฟาร์มที่เดนมาร์กได้อย่างไร?
โครงการนี้จะจัดการสอบคัดเลือกนักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั่วประเทศที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปวส. 1 สาขาสัตวศาสตร์ และสัตวรักษ์ ไม่จำกัดเพศ อายุไม่ต่ำกว่า 19 ปีบริบูรณ์ ตามข้อกำหนดของฝ่ายเดนมาร์ก ซึ่งในแต่ละปี มีนักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกได้เดินทางไปฝึกงานฟาร์มปศุสัตว์ ได้แก่ ฟาร์มโคนม และฟาร์มสุกรของเกษตรกรเครือข่ายสมาชิก Danish Farmers Union เป็นระยะเวลา 1 ปี จำนวนปีละประมาณ 10 – 15 คน โดยนักศึกษาที่ผ่านการสอบคัดเลือกต้องเข้ารับการฝึกอบรมภาษาอังกฤษ เพื่อเข้ารับการทดสอบภาษาอังกฤษ IELTS และต้องได้คะแนนผลการสอบ ระดับคะแนนไม่น้อยกว่า 3.0 ซึ่งเป็นเกณฑ์ข้อกำหนดของฝ่ายเดนมาร์ก รวมทั้งไปฝึกทักษะการปฏิบัติงานในฟาร์มสุกร หรือฟาร์มโคนม ตลอดจนการฝึกอบรมภาษาอังกฤษด้วย เพื่อให้มีความพร้อมในเบื้องต้นในการเดินทางไปฝึกปฏิบัติงานจริงที่เดนมาร์ก
ผมเรียนสาขาสัตวศาสตร์ใน วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกำแพงเพชร ได้เป็นหนึ่งคนที่ได้มีโอกาสเข้าไปสอบคัดเลือกแข่งกับเพื่อนๆ จากทั่วประเทศ สำหรับน้องๆ ที่ต้องการหรือสนใจทางด้านงานฟาร์ม และอยากไปฝึกงานแบบนี้สามารถเลือกสาขาเรียนตามที่ประกาศคัดเลือกได้เลยนะครับ
เข้าร่วมโครงการมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
หลังจากที่ผลประกาศออกมาแล้ว เราคือผู้ที่ผ่านการคัดเลือก สิ่งที่เราจะต้องทำคือ พาสปอร์ตสำหรับการเดินทาง ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 บาท และส่วนที่ 2 จะเป็นค่าตั๋วเครื่องบินที่เราจะต้องเป็นคนจ่ายเอง ค่าตั๋วไป-กลับ ระยะเวลาอยู่ที่ประเทศเดนมาร์ก 1 ปี ช่วงที่ผมเดินทางของสายการบินไทย ค่าตั๋ว 46,000 บาท
แน่นอนครับ ผมก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่บ้านฐานะยากจน ในตอนนั้นผมก็ไม่มีค่าตั๋วเครื่องบินหลังจากที่ทราบว่าตัวเองผ่านการคัดเลือก ในใจคิดว่าจะขออาจารย์สละสิทธิ์ แต่ก็ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ดูแลให้คำแนะนำผมว่านี่คือโอกาสเธอควรไป ส่วนเรื่องค่าตั๋ว ทางอาจารย์ช่วยดำเนินการยื่นกู้เงินจาก วิทยาลัยให้ ทางวิทยาลัยก็อนุมัติให้ผมมาก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ฝึกงานที่ประเทศเดนมาร์กมีรายได้ไหม?
แน่นอนครับโดยขณะที่ผมฝึกงาน จะได้รับเงินค่ายังชีพเป็นค่าตอบแทนประมาณเดือนละ 50,000 บาท ภายหลังหักค่าภาษีและค่าใช้จ่ายที่ผมไปอยู่จะเป็นค่าเทอมที่เราต้องไปเรียน จะเป็นโรงเรียนที่สอนเราในสาขาเกี่ยวกับปศุสัตว์ การเกษตร และค่าที่พักอาศัยจะเหลือประมาณ 30,000 บาท ซึ่งส่วนตัวผมก็นำเงินส่วนนี้ แบ่งเก็บสะสมในช่วง 2 เดือนแรกส่งมาคืนให้กับวิทยาลัยที่ผมได้กู้ยืมไปเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน
แน่นอนหลังจากที่เรากลับประเทศไทยมา เงินที่เราได้มาจะสามารถนำมาใช้ในการตั้งต้นประกอบอาชีพเกษตรกรรมหรือศึกษาต่อในประเทศไทย จนจบ ชั้น ปวส. 2 และระดับปริญญาตรีได้เลย แต่ก็มีเพื่อนๆ ผมหลายคนเลือกที่จะใช้เงินที่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต
ฝึกงานฟาร์มทำอะไรบ้าง?
ที่ผมไปผมได้อยู่ประจำฟาร์มโคนม หน้าที่หลักๆ คือ รีดนมวัว ให้อาหารวัว ทำความสะอาดที่นอนวัว ใส่ฟางในคอก กิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นผู้ช่วยสบทบการทำงานร่วมกับเจ้าของฟาร์มคือ ผสมอาหารให้วัวตามสูตร ทำหญ้าหมัก ตัดแต่งกีบวัว เราไปดูภาพบรรยากาศของฟาร์มที่ผมไปอยู่กันครับ
จริงๆ ก็มีรูปเยอะมากครับ ในช่วงที่ผมไปอยู่ตอนนั้นจะถ่ายรูปต้องใช้กล้องดิจิตอล มือถือผมใช้ก็เป็นแบบถ่ายรูปไม่ได้ เมื่อใช้กล้องดิจิตอลแล้วเวลาถ่ายเสร็จก็จะต้องเอารูปไปลงไว้ในคอมพิวเตอร์ของฟาร์ม คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นดันพังเสียก่อน เลยมีแต่รูปเหลือบ้างนิดหน่อยก่อนจะกลับ สังเกตได้ว่าผมยาวมากครับ เพราะตั้งแต่ไปไม่ได้ตัดผมเลย ทำไมถึงไม่ตัด ส่วนหนึ่งคือราคาแพง และร้านตัดผมทีต้องเข้าไปในเมืองไกล วันหยุดส่วนตัวผมก็เลือกที่จะนอนพักผ่อนอยู่บ้าน ทำอาหารกิน แต่ก็มีบางวีคเดินทางไปหาเพื่อน ผมโชคดีอยู่อย่างหนึ่งคือ ฟาร์มที่ผมอยู่เจ้าของมีบ้านแยกให้ผมอยู่ 1 หลังต่างหากเลย มีครัว มีทีวี มีคอมพิวเตอร์ ทุกอย่างโอเคเลย อยู่บ้านเลยสบายกว่าที่จะเดินทาง ก็มีเพื่อนๆ แวะมาเที่ยวหาเป็นประจำ
อยู่ฟาร์มเดนมาร์กได้เที่ยวบ้างไหม?
การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศก็มีบ้างครับ ไปดูงานฟาร์ม ไปรู้จักกับป้าๆ คนไทยที่อาศัยอยู่ในเดนมาร์กเขาก็ชวนไปทำกับข้าวกินที่บ้านเขา ไปร่วมงานสังสรรค์ตามเทศกาลของไทยในประเทศเดนมาร์กก็มีจัดกันอยู่ ไปตามภาษาวัยรุ่นครับ
เล่นสกีที่ประเทศนอร์เวย์
สำหรับทริปนี้ ทุกคนที่มากับโครงการนี้จะได้เดินทางไปที่ยอดเขาที่ประเทศนอร์เวย์ ไปเล่นสกีในช่วงฤดูหนาวเดินทางไปกับโครงการ ไปพร้อมกันทุกคน บอกเลยสนุกมากครับ ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เจอหิมะ 555 ไปชมภาพบรรยากาศกันครับ สำหรับทริปนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายนะครับ เราไม่ต้องเสียตังเพิ่ม ไปกันเลย
เป็นประสบการณ์ของทุกคนที่ได้ไปฝึกงานที่ประเทศเดนมาร์ก เราได้มีโอกาสทำหลายๆ อย่างเป็นครั้งแรก พบเห็นครั้งแรกไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีทางด้านการเกษตร ด้านปศุสัตว์ที่ประเทศเดนมาร์ก ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลย
หลังจากที่เราฝึกงานที่ฟาร์มเสร็จแล้ว และเรียนจบครบหลักสูตรแล้ว เราก็จะต้องทำรายงานโครงการเป็นภาษาอังกฤษส่งให้ทางโรงเรียน ผมเองก็ต้องบอกเลย ใช้มือกุมหัวเลยครับ ไม่ค่อยเก่งทางด้านภาษา แน่นอนครับเราทุกคนทำงานเป็นทีม ลอกคนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง ช่วยเพื่อนคนที่ช้า เพื่อให้เสร็จจบพร้อมกันทันส่ง ในช่วงสุดท้ายที่เราอยู่โรงเรียนสนุกดี เมื่อจบแล้วเราจะได้รับใบประกาศ และก็สามารถทำมาเทียบกับรายวิชาที่เราจะกลับมาเรียนต่อให้จบในสาขาของตัวเองที่ประเทศไทยได้อีกด้วย
ครับอันนี้ก็เป็นรีวิว จากผมแอ๊ด นักเรียนฝึกงานรุ่นที่ 13 จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกำแพงเพชร วันที่ผมเขียนบทความรีวิวนี้ ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้วครับ ก่อนรูปภาพและความรู้สึกจะลืมๆ ไป ในวันที่อายุมากขึ้นก็อยากจะมาเล่าให้รุ่นน้องได้ฟังเป็นแนวทางกัน
สุดท้ายนี้ก็คงอยากจะฝากบอกกับน้องๆ ว่า เมื่อเราได้มีโอกาสผ่านการคัดเลือกนั่นคือ โอกาสของเราครับ เมื่อเราไปถึงที่เดนมาร์กแล้ว เราก็จะมีหน้าที่ และความรับผิดชอบต่องานที่เราจะต้องทำ ลงฟาร์ม มากพอสมควร ถามว่าเหนื่อยไหมเวลาทำงาน ทุกงานเหนื่อยครับ แต่ก็ว่าไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เหนื่อยกายเป็นเรื่องธรรมดา แต่หลายคนที่เหนื่อยใจเพราะบางทีไปเจอเจ้าของฟาร์มขี้วีน ขี้บ่น โวยวายเก่ง ทุกคนต้องเตรียมใจและเข้าใจในเรื่องนี้ หากเจอแบบนี้ต้องทำใจ และพยายามทำความเข้าใจเพื่อที่จะผ่านไปให้ได้ 1 ปีแป๊ปเดียวครับ
เราจะมีช่วงที่ได้มาเจอกันกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่สนุกมากปาร์ตี้กันสุดๆ และที่โรงเรียนจะมีบาร์อยู่ชั้นใต้ดินด้วยทุกสัปดาห์ ทั้งเล่น ทั้งเรียน ทำให้เต็มที่ เรากลับไปฟาร์มก็ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในงานต่อ นั่นคือชีวิตจริงในการทำงาน
เอาล่ะครับ ยินดีด้วยกับน้องๆ ที่ผ่านการคัดเลือก และเป็นกำลังใจให้ผ่านการฝึกงานจบครบหลักสูตรไปได้ด้วยดี สนุกให้เต็มที่ครับ