เมื่อต้นเดือนได้มีโอกาสไปเชียงใหม่ แล้วมีพี่ๆ ที่ทำงานร่วมกันเค้าเคยไปทำบุญที่นั่นมาก่อนบอกว่าดีมากเลย ไหนๆ ก็ได้ไปเชียงใหม่แล้วก็เลยไปอีกหน่อย ก็ได้มีโอกาสไปทำบุญต่อ วัดที่ไปทำบุญนี้ชื่อว่า วัดพุทธพรมปัญโญ หรือวัดถ้ำเมืองนะ นั่นเอง ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นะครับ จะขอมาบอกเล่าการเดินทางและความรู้สึกที่ได้ไปทำบุญที่วัดนี้มา
สิ่งที่ทำให้อยากไปวัดนี้ในตอนแรกคือ อยากเข้าไปร่วมสวดมนต์พระบรมมหาจักรพรรดิ เพื่อเป็นสิริมงคลแต่ตัวเราเองครับ การเดินทางไปวัดถ้ำเมืองนะนั้นผมได้ไปกับพี่สองคนที่ทำงานร่วมกัน คือไปทั้งหมดด้วยกัน 3 คน ซึ่งเราไม่เคยไปมาก่อนเลย เราก็ยังไม่รู้เลยว่าทางไปทางไหนอาศัยถามทางชาวบ้านใกล้เคียงว่าไปทางไหน แล้วอาศัยดูป้ายเอา ถ้าพูดตรงๆ ทั้งสามคนเรามีความพยายามมากที่จะไปทำบุญสวดมนต์ที่นั่น
หลังจากทำงานในตัวเมืองเชียงใหม่เสร็จ ช่วงที่อยู่ในเมืองเชียงใหม่เราก็คิดว่าระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ออกมาถึง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว นั้นเป็นระยะทางไม่ไกล เราเสร็จงานกันประมาณช่วงบ่ายๆ หน่อยๆ กะว่าไปถึง ที่วัดพุทธพรมปัญโญ ให้ทัน 18.00 น. เพื่อให้ทัน 6 โมงเย็นจะได้สวดมนต์ช่วงเย็นพอดี แต่การเดินทางไม่ได้ไปเป็นตามอย่างที่เราคิดครับ ^^ เรามาถึงที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ก็ปาไป 3 ทุ่มกว่าเลยครับ ด้วยระยะทาง บวกกับขึ้นเขาถือว่าคดเคี้ยวพอสมควร และก็ไม่ชินทางทำให้ขับไวไม่ได้ครับ ทำให้เราต้องได้ไปพักที่รีสอร์ทก่อนเข้าไปที่วัดถ้ำเมืองนะก่อน 1 คืน รีสอร์ทที่พักที่นั่นคือ ริมดอยรีสอร์ท เพราะถามๆ คนแถวนั้นแล้วถ้าเข้าไปอีกอาจจะไม่มีรีสอร์ทให้เราพักก็ว่าได้
ก็ถือว่าบรรยากาศโดยรวมของรีสอร์ทแห่งนี้ ดีมากๆ ครับ ที่ดูๆ แล้วรีสอร์ทแห่งนี้จะไว้สำหรับจัดประชุมสัมมนาต่างๆ ด้วย เรือนของรีสอร์ทจะเป็นเรือนทรงไม้ครับ ตกลงเราก็พักกันที่นี่ แล้วก็ตื่นเช้ามาก็ทานอาหารเช้าที่รีสอร์ทที่นี่เลย ถ้าไม่ได้จ่ายค่าอาหารตอนเช่าห้องต้องเสียเพิ่มอีกคนละ 100 บาทเป็นค่าอาหารเช้า แบบบุฟเฟ่นะครับ เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จเราก็เตรียมตัวเดินทางต่อไปสู่วัดถ้ำเมืองนะ ตามความตั้งใจ….ไป…เมื่อออกไปนั้นเริ่มเข้าสู่หมู่บ้าน แถวนั้นไม่ค่อยมีปั้มน้ำมันนะครับ ถ้ารถใครใช้แก็สอย่างเดียวนั้นต้องอัดไว้เต็มถังเลยก็ว่าได้ ปั้มน้ำมันส่วนมากก็จะมีแต่เป็นปั้มหลอดอ่ะครับ
สิ่งที่อยากจะฝากบอก สำหรับผู้ใจบุญที่ตั้งใจไปทำบุญที่นี่คือเมื่อคุณเข้าไปที่ตำบลเมืองนะ แล้วถามหาวัดถ้ำเมืองนะแล้วนั้นคุณต้องถามให้ดีๆ เพราะทางเลี้ยงเข้าวัดนั้น ช่วงที่ผมไปนั้นไม่มีป้ายใดๆ บอกเลย ถ้าสังเกตุก็อาจจะมีนะ แต่มันไม่เหมือนป้ายอ่ะ อาจจะทำให้คุณขับรถเลยไปก็ได้ ที่แน่ๆ ผมทั้ง 3 คนขับรถเลยครับ (เพราะเราก็ไม่เคยไปมาก่อน) ^^ การเลยครั้งนี้ยังดีนะที่เราไปกัน 3 คน ในวันเดียวกันมีคนหลงและก็เลยไปเหมือนผมด้วย แต่เค้ามาคนเดียวเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก ความน่ากลัวของการเลยไปจากทางเลี้ยวเข้าวัด คือ หลังจากนั้นจะเป็นทางเปลี่ยว และขึ้นเขาสูงมากๆ ทางไม่ดีเอาซะเลย…แย่สุดๆ บางทางเป็นช่วงลูกรัง บางช่วงเป็นถนนลาดยางชำรุด ถ้าคุณขับเลยไปแบบไม่มีจุดหมายและหาคนถามทางไม่ได้เลย คุณจะไปเจอป้อม เหมือนป้อมตำรวจชายแดน ถ้าผ่านจุดนั้นไปแล้วก็จะเป็นการเริ่มขึ้นเขาสูงชันมากๆ แทบไม่มีที่กลับรถทีเดียว เรา 3 คนขับรถขึ้นเขาไป จนถึงยอดเขาเลย มองไปรถเราอยู่สูงเหนือก้อนเมฆเลยก็ว่าได้ เมื่อถึงจุดนั้นแล้วก็เกิดความสงสัยกันว่าเอ๊ะ!! ทำไมเส้นทางไปวัดนี้ไม่เห็นมีบ้านคนเลย มีแต่รถผักวิ่งสวนลงมาจากเขา เราเลยตัดสินใจจอดรถถามรถขนผักว่า วัดถ้ำเมืองนะ เนี่ย!! อยู่ตรงไหน คนขับรถผักเขาตอบผมกลับมาว่า โอ้โห้…คุณขับรถเลยมาไกลมาก…..วันอยู่ตีนเขาโน่น…เยี่ยมครับ ขอบคุณมากๆ ^^ แค่นั้นแหละเราก็รีบหาที่กลับรถเลย เพราะรู้สึกว่าเหมือนเรากำลังจะไปเขตชายแดนเลยดูภาพสภาพทางที่ไปนะครับนี่คือการหลง ^_^
เมื่อรู้แล้วก็ลงจากเขา ขับรถกลับมาถามจนถึงช่วงเหมือนจะเป็นหมู่บ้านคนเราก็ถามคนแถวนั้น เค้าก็บอกว่าข้ามสะพานแม่น้ำอะไรซักอย่างนี่แหละ แล้วให้เลี้ยวซ้ายเลย ช่วงนี้ก็ค่อยๆ ไปค่อยๆ ถามเอานะเดี๋ยวเลยอีก จนมาถึงปากทางเลี้ยงเข้าจริงๆ เป็นทางธรรมดามากๆ ป้ายมองไม่เห็นเลยครับ เราก็รีบขับรถมุ่งหน้าไปที่วัดกันเลย เพื่อให้ทันสวดมนต์ในรอบบ่ายโมง เราก็ไปถึงประมาณใกล้ๆ เที่ยง ที่หน้าวัดจะมีร้านอาหารตามสั่งอยู่แนะนำให้ไปทานข้าวก่อนเข้าไปสวดมนต์นะครับเพื่อจะได้ไม่ต้องหิว สมาธิจะดีขึ้น ถึงซักทีวัดถ้ำเมืองนะ
หลังจากนั้นเราก็เดินเข้าไปไหว้พระตามประสาคนเข้าวัดนะครับ บรรยากาศด้านในวัดสงบเงียบดีมากครับ มีจุดชมวิวถ้าเดินขึ้นบรรไดไป เรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาเราก็เข้าร่วมพิธีสวดมนต์พระบรมมหาจักรพรรดิ หลังจากสวดมนต์เสร็จถือว่าเรา 3 คนนั้นโชคดีได้มีโอกาสไปเทหล่อพระลงในพิมพ์อีกด้วยครับ ซึ่งพระที่ดูแลการหล่อพระอยู่นั้นเค้าบอกว่าใครมาครั้งแรกไม่ใช่ว่าจะได้มีโอกาสมีหล่อพระเลยนะ แต่วันนั้นที่ผมไปกันหลวงตาอนุญาติให้หล่อพระได้ครับ ดีใจมากเพราะพระที่เราได้หล่อลงพิมพ์เมื่อแห้งแล้วก็จะเอาไว้แจกให้กับผู้ที่ไปไหว้พระที่วัดนั่นด้วย ก็เลยสาธุ….เลยครับ โดยทั่วไปนั้นที่วัดนั้นบรรกาศเงียบสงบ ถ้าท่านใดได้มีโอกาสได้ไปก็ขอให้ได้บุญอิ่มอก อิ่มใจ เดินทางไปเดินทางกลับกันอย่างปลอดภัยกันทุกคนนะครับ…(:
ขอตามรอยค่ะ แพลนกันไว้แล้ว ขอบคุณข้อมูลที่โพสน๊ะค่ะ ทำให้เรามีการเตรียมพร้อมมากขึ้นค่ะ สาธุในบุญด้วยกันน๊ะค่ะ
ด้วยความยินดีครับ