ถ้าท่านไหนได้เคยแวะเวียนมาติดตามอ่านบทความจากทางเว็บไซต์ผมนี้ ส่วนมากบทความที่ได้บรรยายออกมาผ่านตัวอักษรลักษณะการนำเสนอทั่วๆ ไปก็จะเป็นการนำเสนอแบบบ้านๆ ตามความเข้าใจนะครับ วันนี้จะมีแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง “การทำ seo“ ขอบอกว่าจะเริ่มจากเรื่องที่เข้าใจสำหรับการทำ seo พื้นฐานก่อนนะครับ
การทำ seo คือ การทำอันดับเว็บไซต์ของเราให้ติดอยู่ในอันดับต้นๆ หรือหน้าแรก ในเครื่องมือค้นหาตามคำหลัก เช่น Google เป็นต้น ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ วิธีทำให้เว็บไซต์ของเราไปขึ้นอยู่ในหน้าแรกของ Google ในคำค้นหาต่างๆ นั้นเอง คือผมก็เข้าใจแบบนี้นะครับ จริงๆ แล้วคงมีรายละเอียดเชิงลึกทางวิชาการที่มากกว่านี้แต่ผมจะพูดคร่าวๆ สำหรับมือใหม่ที่เข้ามาศึกษาในเรื่องการทำ seo ให้พอเข้าใจนะครับ
ทำไมเราต้องทำ seo ให้กับเว็บไซต์เรา?
ให้จำลองเว็บไซต์เราเป็นร้านค้านะครับ แล้วจำลองคำค้นหา หรือ(คีเวิร์ด) เป็นลูกค้า แล้ว Google เป็นศูนย์กลางตลาด ซึ่งจะสอดคล้องกันได้ดังนี้ ถ้าเปรียบเทียบดังที่กล่าวมา สมมุติว่าร้านค้าเราจะมีลูกค้าเข้าร้านได้เยอะๆ นั้นจำเป็นต้องอยู่ทำเลที่ตั้งที่มีคนสัญจรไปมาในแต่ละวันจำนวนมากใช่ไหมครับ โอกาสถึงจะจำหน่ายสินค้าได้มากกว่าร้านค้าที่ไม่มีคนสัญจรเลย แล้วถ้าร้านค้าเราตั้งอยู่ในโซนตลาดที่ตรงกับกลุ่มสินค้าขายเฉพาะด้านที่ร้านเราขายแล้วด้วยโอกาสที่จะขายสินค้าในร้านสู่ลูกค้าก็มากเช่นกัน
เว็บไซต์ถ้าเปรียบเหมือนร้านค้าหนทางที่เราจะได้ลูกค้า ก็จะมาจากคำค้นหาของคน หรือคีเวิร์ด ต่างๆ ที่ลูกค้าสนใจแล้วเข้ามาค้นใน Google แล้วถ้าเว็บไซต์เราอยู่ในอันดับต้นๆ หรืออันดับ 1 เลยนั่นหมายความว่าโอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามาเจอสินค้าเราก็สูงกว่าเว็บไซต์อื่นๆ ที่อยู่อันดับล่างๆ ลงไป หรืออยู่ในหน้าท้ายๆ สิ่งนี้และเหตุผลที่จะต้องเชื่อมโยงมาเข้าเรื่อง การทำ seo
เว็บไซต์ทำ seo จะมีโอกาสอย่างไร?
โอกาสของเว็บไซต์ที่ทำ seo ก็คือ เว็บไซต์มีสิทธิ์ที่จะขึ้นมาอยู่ในอันดับแรก หรืออันดับต้นๆ ตามคำหลักค้นหาใน search engine เช่น Google นั่นเอง สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่เว็บไซต์ทำอันดับได้แล้ว ถ้าเว็บไซต์นั้นขายสินค้า ยกตัวอย่างเช่น ขายนาฬิกา ถ้าลูกค้าเข้ามาค้นหาคำว่า ร้านขายนาฬิกาออนไลน์ ถ้าเว็บไซต์เราอยู่อันดับแรกที่ได้ผ่านการทำ seo มาแล้วแข่งกับคู่แข่งหลายเว็บไซต์ด้วยกันจนมาอยู่อันดับที่ 1 ทำให้เรามีโอกาสที่จะได้ลูกค้าที่กำลังต้องการซื้อนาฬิกาก่อนเจ้าอื่นเลยก็ว่าได้
ถ้าคีเวิร์ด หรือคำหลัก ยกตัวอย่างใน 1 เดือนนั้นมีคนค้นหาอยู่ที่ 5,000 ครั้งต่อเดือน ในคีเวิร์ด ร้านขายนาฬิกาออนไลน์ แล้วเว็บไซต์เราอยู่อันดับ 1 ใน search engine เช่น Google ในเดือนนั้นก็เหมือนกับว่าเราจะมีคนเขามาแวะเวียนดูนาฬิกาเราเกือบ 5,000 คนเลยก็ว่าได้ สมมุติว่าใน 5,000 คน ที่เข้ามาซื้อนาฬิกา 100 เรือน กำไร 500 บาทต่อเรือน นั่นหมายความว่าเจ้าของเว็บไซต์แห่งนั้นมีโอกาสได้กำไรจากการขายนาฬิกา 5,000 บาทเลยก็ว่าได้ เห็นไหมล่ะครับ โอกาสของเว็บไซต์ที่ได้ทำ seo ย่อมมีมากกว่าเว็บไซต์ที่ไม่ได้ทำ seo เลยก็ว่าได้
ทำ seo ต้องเสียเงินไหม?
โดยปกติแล้วการทำ seo นั้นเจ้าของเว็บไซต์สามารถทำ seo ด้วยตัวเองได้เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการปรับแต่งโครงสร้างของเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับหลักการของ seo เพื่อให้ search engine ชื่นชอบ และ Bot เข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์เราง่ายขึ้น แต่ปัจจุบันนี้การทำ seo ถ้าด้วยการเลือกคีเวิร์ด หรือคำหลัก ที่มีการค้นหาสูงในแต่ละเดือนนั่นก็ย่อมมีคู่แข่งมาก การทำ seo ก็เป็นเรื่องอยากด้วยเหมือนกัน ถ้าเราเป็นเจ้าของเว็บไซต์คนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องการทำ seo เลย เราจำเป็นต้องเสียเงินจ้างครับ ซึ่งมีผู้ให้บริการจำนวนมากในปัจจุบันทั้งรับประกัน และไม่รับประกัน ถ้าไม่ติดอันดับตามที่ว่าจ้างก็ยินดีจ่ายเงินเต็มจำนวนอะไรประมาณนี้ แต่ถ้าไม่ต้องการอยากจะจ้างในเรื่องการทำ seo เจ้าของเว็บไซต์จึงจำเป็นต้องเริ่มต้นศึกษาเรื่องการทำ seo ด้วยตัวเองนะครับ จริงๆ ไม่ใช่เรื่องที่ยากมากแต่ต้องใช้เวลาพอสมควร
เอาล่ะครับสำหรับเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการทำ seo การทำ seo คืออะไร? ทำไมเราต้องทำ seo ให้กับเว็บไซต์เรา แล้วโอกาสหลังจากที่เว็บไซต์ได้ทำ seo ไปแล้วและทำอันดับได้ดีใน search engine ได้เว็บไซต์จะได้รับประโยชน์อะไร สุดท้ายแล้วการทำ seo ก็สามารถทำเองได้หรือจะจ้างกับบริษัทฯ รับทำก็ได้แล้วแต่ความต้องการของเจ้าของเว็บไซต์นะครับ ส่วนเรื่องการเริ่มต้น seo หรือกระบวนการจัดทำอันดับเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้นได้อย่างไรผมรู้อะไรมาก็จะทยอยมาอัปเดทบทความบอกเล่ากันต่อไปนะครับ