เครื่องมือช่วยสร้างแบรนด์ ในโลกออนไลน์

สวัสดีครับ มาตามนัดหลังจากเสร็จงาน 🙂 บทความที่แล้วเราพูดถึงเรื่อง การสร้างแบรนด์ตัวเอง ในโลกออนไลน์ เพื่อนๆ ที่ติดตามอ่าน ก็จะเริ่มพอมองออก และพอเข้าใจความหมายของคำว่า แบรนด์ ไม่มากก็น้อย วันนี้เรามาดูวิธีเริ่มต้นพร้อมเครื่องมือที่ควรมีกันเลย

เริ่มต้นการสร้างแบรนด์ ราคาถูกฉบับแบบปั้นเองกับมือ สิ่งที่ผู้เขียนจะขอแนะนำต่อไปนี้ อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ขอเลือกในสิ่งที่ทำแล้วเกิดผลลัพท์ที่รับได้ และประหยัดเงิน ไม่ต้องลงทุนสูงนะครับ

1. ตั้งกลุ่มเป้าหมายตามแผนที่เตรียมไว้ เรียบร้อยแล้ว หากท่านใดยังไม่รู้แนวทางติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ การสร้างแบรนด์ด้วยตัวเอง
2. สร้างโลโก้ ประจำแบรนด์ของเรา ออกแบบเองก็ได้ หากกลัวไม่สวย ใครพอมีเงินก็หาจ้างเอาก็ได้ ตามที่เราต้องการ โลโก้จะเป็นสิ่งที่จะทำให้คนจดจำ ในแบรนด์เราได้ แนะนำรูปแบบของโลโก้ควรออกแบบมาให้เป็นเอกลักษณ์ ที่มองแล้วสื่อถึงตัวตนในการเป็นแบรนด์ฉบับแบบเรา
3. ทำให้คนรู้จักแบรนด์ของเรา เราควรจะเริ่มต้นอย่างไรเอาแบบง่ายๆ ก่อน สิ่งที่ต้องมีคือ  1.เว็บบล็อก  2.Facebook แฟนเพจ  3.ช่อง Youtube ของคุณเอง  4. LiNE@  สิ่งที่ต้องมีในการเริ่มต้นนี้เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเราสามารถหามาใช้งานได้ในโลกออนไลน์ โดยไม่ต้องลงทุน ผมจะมาอธิบายในช่วงท้ายว่าเราจะมาใช้ 4 สิ่งนี้มาสร้างแบรนด์ได้อย่างไร
4. สร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ สิ่งนี้มีความจำเป็นเราจะต้องสร้างขึ้นมาหลังจากที่คนเริ่มรู้จักเราแล้ว เพื่อให้เกิดการติดตามอย่างต่อเนื่อง
5. ทำความเข้าใจลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เป็นการให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่ติดตามเราเกิดความเข้าใจ ในสิ่งที่เป็นตัวตนที่เรากำหนดขึ้นมาให้เกิดแบรนด์นี้
6. การแตกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับแบรนด์ เป็นขั้นตอนสุดท้ายเมื่อเรามีคนที่รู้จัก ติดตาม เชื่อใจแล้ว สิ่งที่เราจะนำเสนอต่อไปคือผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและมีประโยชน์ ต่อกลุ่มลูกค้าของเรา ที่เราสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้าแล้ว โอกาสที่จะขายผลิตได้จะมากกว่า มาประกาศขายเฉยๆ โดยที่เรายังไม่เคยให้สิ่งดีๆ ที่มีประโยชน์แก่ลูกค้าเราก่อนเลย

เอาล่ะครับ บทความนี้เขียนช่วงดึกสมองไม่ค่อยแล่น อ่านเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ตรงไหนก็คอมเม้นถามไว้ได้นะครับ ^^ จะขอเข้ามาตอบภายหลังครับ เรามาดูวิธีการเริ่มต้นใช้งานเครื่องมือlสร้างแบรนด์ในโลกออนไลน์ที่ผมแนะนำไว้ 4 อย่างนี้ให้เกิดประโยชน์ในการสร้างแบรนด์ต่อกันเลยครับ

1. เว็บบล็อก หากเปรียบเทียบเราจะใช้เว็บบล็อกของเราเสมือนออฟฟิต ความหมายคือ เป็นที่ตั้งหลักในการให้ข้อมูล และนำเสนอสิ่งที่มีประโยชน์ต่อกลุ่มลูกค้า หน้าที่ของคุณที่มีความจำเป็นในการทำงาน หรือใช้งานเว็บบล็อก คือ เริ่มต้นด้วยการเขียนบทความ ให้ความรู้แก่กลุ่มลูกค้าที่เรากำหนดไว้  การเขียนบทความที่ดี ไม่ควรไปคัดลอก ก็อปปี้บทความจากในอินเตอร์เน็ตแล้วมาโพสต์เลย สิ่งนั้นไม่ดีแน่นอน คุณควรเรียบเรียง และเขียนใหม่โดยออกมาจากในตัวคุณเองที่ต้องการนำเสนอ เพราะว่าคุณจะได้บทความที่มีคุณภาพมากกว่าการที่ไปคัดลอกมา ทำไมผมจึงแนะนำให้คุณเริ่มต้นจากการเขียนบทความก่อน? เพราะบทความจะนำมาซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่สนใจในเรื่องเดียวกันกับคุณ มาเจอคุณที่ผ่านจากการค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตโดยใช้ google หรืออื่นๆ  เว็บบล็อกของเราควรจะประกอบไปด้วยเมนูอะไรบ้างหลักๆ คือ หน้าเกี่ยวกับคุณ  หน้าผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณมี  หน้ารวมบทความ หน้าข้อมูลการติดต่อ เป็นต้น และขาดไม่ได้ เว็บบล็อกของคุณก็ควรใสโลโก้ไว้ให้เรียบร้อย  ถ้ามีสโลแกนประจำแบรนด์ก็ให้ออกแบบเขียนไว้ใกล้ๆ กับโลโก้เลยก็จะดี จะทำให้เวลาคนเข้ามาดูเข้าใจในแบรนด์เรามากขึ้นเวลาเค้าเห็นโลโก้เรา  สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่ควรมีคือ กล่อง e-Mail ไว้ให้สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านในบล็อกเราลงทะเบียนอีเมล์รับข่าวจากเว็บไซต์เรา ข้อดีก็คือเราจะได้กลุ่มลูกค้าเข้ามาติดตามอ่านสาระในบล็อกเราเรื่อยๆ หลังจากที่เรามีการโพสต์อัปเดทบทความใหม่ ในอนาคตคุณอาจจะเปลี่ยนจากท่านผู้สนใจอ่านบทความ มาเป็นลูกค้าก็ได้
2. Facebook แฟนเพจ เราจะใช้ทำหน้าที่ในการกระจายข่าวไปยังกลุ่มผู้ที่ใช้งานเฟสบุ๊ค หน้าที่หลักๆ ที่เราควรทำคือ เราจะมาเริ่มต้นสร้างแฟนเพจโดยการ ขยันสร้างแคปชั่น โดยออกแบบเป็นรูปภาพ แล้วลงแคปชั่นในนั้น ด้านล่างตามด้วยรูปโลโก้ และสโลแกนของแบรนด์ เพื่อให้ผ่านสายตาคนชม เมื่อสร้างเสร็จสำหรับภาพแคปชั่น 1 วันควรโพสต์อย่างน้อย 4 เวลา โดยไม่ซ้ำกันถือว่าดี ช่วงเช้า 7.00 น. ช่วงพัก 12.00 น.  ช่วงเลิกงาน 17.00 น. และช่วงคนใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบเยอะมากคือ ช่วงเวลา 20.00 น.  หลังจากโพสต์ เราก็แชร์ไปยังกลุ่มต่างๆ ในเฟสที่มีลูกค้าตรงกลุ่มเป้าหมายของเราที่กำหนดไว้เพื่อกระจายให้คนรับรู้ และแชร์มาหน้า timeline ก็ได้เพื่อนๆ ก็จะเห็นด้วย หากชอบหรือโดนใจ เค้าจะเข้ามากด Like ให้คุณเองโดยที่คุณไม่ต้องไปร้องขอให้เค้ามากด Like ให้  อย่างที่ 2 ให้สาระประโยชน์ ที่เป็นความรู้แก่ลูกเพจ ที่เค้ามาติดตามเพจ คือ เมื่อคุณเขียนบทความลงในบล็อก คุณสรุปช็อตเด็ดๆ ที่อ่านแล้วน่าสนใจมีประโยชน์ลงมาโพสต์ในแฟนเพจ แล้วใส่ลิงค์ให้คนที่สนใจเข้าไปอ่านข้อมูลแบบเต็มได้ที่เว็บไซต์ ทำรูปภาพประกอบโพสต์ให้ดูน่าสนใจ ช่วยทำให้เค้าหยุดอ่าน จะทำให้คุณเพิ่มจำนวนคนเข้าดูเว็บไซต์ได้ต่อเนื่องด้วย มันเป็นสิ่งที่ดีในอนาคต  การประกาศขายสินค้าอย่างเดียวในหน้าแฟนเพจถามว่ามันได้ไหมก็ได้ แต่อยากให้เริ่มต้นจากการให้ข้อมูลที่ดีก่อน ส่วนสินค้าเอาไปไว้ในเว็บบล็อกก่อน เพราะแบรนด์เรายังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ควรค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
3. ช่อง Youtube เราจะใช้หากลุ่มลูกค้าเช่นเดียวกัน หน้าที่ของคุณคือ สร้างวีดีโอ จะใช้โปรแกรมหรืออัดพูดสดเองก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่ โดยเป็นการให้ความรู้ในเรื่องที่คุณกำหนด สิ่งที่ควรทำคือ หน้าช่องควรใส่รูปปก และรูปโปรไฟล์ให้เรียบร้อย ในส่วนรูปโปรไฟล์คุณจะใช้เป็นโลโก้ก็ได้ แล้วหน้าปกก็ควรมีสโลแกนของคุณติดไว้ด้วย และหน้าช่องควรใส่ลิงค์เชื่อมโยงมายังหน้าแฟนเพจ และเว็บบล็อกได้ด้วย หากผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมจะตามมาติดตามอ่านที่บล็อกก็ได้ หรือเข้าไปกด like แฟนเพจก็ได้ หากคุณสร้างวีดีโออย่างต่อเนื่อง อย่างไม่ได้เลยควรสัปดาห์ละ 1 วีดีโอ อย่างน้อย 1 ปี คุณจะมีวีดีโอสะสมในช่องถึง 50 วีดีโอ จะทำให้คุณได้กลุ่มเป้าหมายที่เยอะมากขึ้นมาก และสิ่งที่ตามมาคนจะเริ่มรู้จักแบรนด์คุณในแบบฉบับตัวคุณเอง
4. LiNE@ ส่วนนี้เราจะใช้เป็นช่องทางติดต่อหลัก สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าหลังจากที่เราแตกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับแบรนด์ออกมา เราจะใช้ไลน์เป็นการเก็บฐานลูกค้า LiNE@ จะดีหากเรามีสินค้าหรือมีอะไรอัปเดทใหม่ๆ เราสามารถแจ้งประกาศทีเดียว แต่ข้อความเข้าไปหมดทุกคน

เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการใช้เครื่องที่ผมกล่าวมาเบื้องต้นนี้ ในการสร้างแบรนด์ หรือสร้างตัวตนของคุณให้คนได้รู้จักมากขึ้น ด้วยการปั้นขึ้นมากับมือ สิ่งนี้อาจจะใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน กว่าที่คุณจะเริ่มมีฐานลูกค้า แต่เมื่อใดที่คุณมีฐานลูกค้าแล้วคุณจะมีลูกค้าแบบระยะยาว ที่สำคัญต้นทุนไม่สูง แต่ไม่เหมาะกับคนใจร้อน และขี้เกรียจในการสร้างเนื้อหา ต่างๆ มาให้ความรู้แก่กลุ่มลูกค้าของคุณ